วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

10 ความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย บ่งบอกโรคร้ายในตัวคุณ

10 ความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย บ่งบอกโรคร้ายในตัวคุณ

สิ่งที่เป็นปกติธรรมชาติของร่างกายอาจไม่เป็นสิ่งที่ธรรมดาเสมอไปถึงแม้จะเป็นอาการที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็ไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังจะเกิดโรคร้ายแรงก็เป็นได้ วันนี้ทางทีมงาน toptenthailand ได้รวบรวมสัญญาณที่บ่งชี้โรคที่กำลังจะเกิดกับตัวคุณหากคุณเห็นสังเกตว่าร่างกายของคุณนั้นมีการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้ เราแนะนำว่าให้คุณรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อลูกหลานในอนาคต

ที่มา : ทีมงาน toptenthailand , ASTV

10. ไฝเปลี่ยนสี โรคมะเร็งผิวหนัง

หากสังเกตไฝของคุณเกิดเปลี่ยนแปลง จากไฝเม็ดเล็กเริ่มขยายใหญ่ขึ้น หรือจากสีจางก็กลายเป็นเม็ดไฝสีที่เข้มขึ้นสิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นไฝที่อยู่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ก็ต้องหมั่นสังเกตหากมีการเปลี่ยนแปลง หรือผิดปกติ ก็ควรไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ

9. ตาเหลือง

ตาเป็นอวัยวะที่ถือว่าสำคัญที่สุดก็ว่าได้ หากตาขาวของคุณเกิดเปลี่ยนเป็นสีเหลือง อาจเป็นสัญญาณของโรคตับ เช่น ตับแข็งหรือตับอักเสบ นอกจากนี้ยังสามารถบอกถึงอาการผิดปกติของถุงน้ำดีอีกด้วย ฉะนั้น หากส่องมองกระจกแล้วพบว่า ดวงตาขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติเพื่อไม่ให้เกิดโรครุนแรงต่อร่างกาย

8. ริมฝีปากแห้ง โรคภูมิแพ้ และโรคโจเกรน

หากริมฝีปากคุณแห้งและแตกอย่างรุนแรง อาจบ่งบอกได้ถึงโรคภูมิแพ้ หรือหากบริเวณมุมปากแห้ง ก็สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณอาจเป็น โรคโจเกรน (Sjogren’s syndrome) หรือที่คนไทยเรียกว่า “โรคปากแห้ง ตาแห้ง” ซึ่งโรคโจเกรนนี้ ถือเป็นหนึ่งในโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่ผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ ทำให้เกิดการอักเสบที่อวัยวะต่างๆ คล้ายกับโรคพุ่มพวง แต่ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติในผู้ป่วยโรคโจเกรน มักจะไปทำให้เกิดการอักเสบที่ต่อมน้ำลาย และต่อมน้ำตา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการตาแห้ง และปากแห้ง รวมถึงอาจมีอาการผิวแห้ง ปวดข้อ และอ่อนเพลียร่วมด้วย
ขอบคุณภาพจาก blogspot.com

7. ผมร่วงมาก ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ

อาการผมร่วงอย่าคิดว่าเป็นแค่เรื่องปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ต่อมไทรอยด์ของคุณทำงานผิดปกติ ฉะนั้นหากผมร่วงมากเกินไปจนผมบาง โดยไร้สาเหตุ การพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณตรวจพบความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ได้

6. ผื่นผีเสื้อบนใบหน้า โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง

หากใบหน้าคุณมีผื่นขึ้น โดยเป็นผื่นตั้งแต่บริเวณสันจมูก ลากยาวไปที่โหนกแก้มทั้งสองข้างเป็นรูปคล้ายผีเสื้อ ทางการแพทย์เรียกว่า ผื่นผีเสือ (Butterfly Rash) ซึ่งผื่นผีเสื้อนี้มักพบในผู้ป่วยโรค SLE (Systermic Lupus Erythrematosus) ที่คนไทยเรารู้จักกันในนาม “โรคพุ่มพวง” หรือโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ฉะนั้นหากพบว่ามีผื่นลักษณะดังกล่าวควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

5. ปื้นสีดำหลังคอ โรคเบาหวาน

ในเวลาทุ่ณอาบน้ำหากสังเกตุที่หลังคอเป็นรอยดำปื้นๆ ขัดถูอย่างไรก็ไม่ออก อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคเบาหวานได้ เนื่องจากคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า ผู้ที่มีผื่นผิวหนังเป็นรอย หรือเป็นแถบดำคล้ำแบบนี้ มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน แม้จะมีความเสี่ยง แต่หากสังเกตเห็นแล้วรีบไปตรวจรักษาแต่เนินๆ การรักษาโรคก็ย่อมจะได้ผลดีกว่า “รอยดำคล้ำ มันถือเป็นสิ่งกระตุ้นให้คุณต้องกังวลเป็นสองเท่า และลุกขึ้นมาป้องกัน ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน” Heather Jones ผู้ช่วยแพทย์แห่งโรงพยาบาล Oregon Health & Science Universityและสมาชิกคณะกรรมการสมาคมแพทย์ผิวหนังระบุ

4. ปากเหม็น โรคหัวใจและกระดูก

กลิ่นลมหายใจไม่ได้เป็นเพียงสัญญาณของโรคเหงือกและฟันเพียงอย่างเดียว อาจเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากความผิดปกติของหัวใจและกระดูกของคุณ ในปี 2010 นักวิจัยชาวสก็อตแลนด์ เผยแพร่งานวิจัยในวารสารทางการแพทย์ของประเทศอังกฤษว่า การแปรงฟันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ โดยผู้ที่แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจ น้อยกว่าผู้ที่ไม่ค่อยแปรงฟันมากถึง 70% นอกจากนี้การที่คุณมีภาวะฟันผุง่าย ยังเป็นการบ่งชี้ได้ถึงสัญญาณของโรคกระดูกพรุน เพราะการที่ฟันผุกร่อนได้ง่ายนั้น หมายถึงความหนาแน่นของกระดูกขากรรไกรที่น้อยลง
ขอบคุณภาพจาก fhm.in.th

3. เท้าบวม โรคหัวใจ

แม้อาการเท้าบวมจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากเกิดภาวะดังกล่าวขึ้นก็ไม่ควรวางใจ เพราะอาการเท้าบวมขาบวมนั้น ถือเป็นอาการธรรมดาทั่วไปของโรคหัวใจ โดยอาการเท้าบวมในผู้ป่วยโรคหัวใจเกิดจากการที่หัวใจด้านขวาทำงานลดลง เลือดจากขาไม่สามารถไหลเข้าไปยังหัวใจด้านขวาได้โดยสะดวก จึงทำให้มีเลือดค้างอยู่ที่ขามากขึ้น

2. เล็บขาว เล็บเป็นร่อง เล็บสีเขียวคล้ำ

เพราะเล็บสามารถบ่งบอกถึงความผิดปกในร่างกายได้มากมาย หารเล็บของคุณมีการเปลี่ยนแปลงแถมยังมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ร่วมด้วยก็เป็นสัญญาณว่า คุณอาจกำลังเป็นโรคที่เกี่ยวกับไขข้อ นอกจากนี้เล็บยังบอกถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่นๆ เช่น เล็บเป็นร่อง บอกให้ทราบถึงความผิดปกติของของไต เล็บเป็นลอน (ตามขวาง) บ่งบอกว่าฮอร์โมน ในร่างกายผิดปกติ ซึ่งอาจเพราะคุณกำลังมีโรคร้ายแรงจึงทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เล็บสีเขียวคล้ำ นั่นคือคุณอาจกำลังป่วยด้วยโรคหืดอย่างรุนแรง โรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคหลอดลมอักเสบ เล็บขาว บอกถึงความผิดปกติของตับ ไต อาจมีภาวะโลหิตจาง หรือตับอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
ขอบคุณภาพจาก blogspot.com

1. ริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า

ร่องรอยแห่งวัยเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การเกิดริ้วรอยบางอย่างอาจไม่ได้บ่งบอกถึงอายุแต่อาจเป็นสัญญาณของโรคกระดูกพรุน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุไว้ว่าริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนมากน้อยแค่ไหนอาจมีสาเหตุมาจากระดับโปรตีนในผิวหนังมีความเชื่อมโยงกับกระดูก ซึ่งการศึกษาพบว่า ริ้วรอยลึกและรอยหยาบกร้านบนผิวหนังสัมพันธ์กับความหนาแน่นของกระดูกที่ลดลง นักวิจัยชี้ว่า ผิวและกระดูกมีส่วนประกอบหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ คอลลาเจน ดังนั้นคุณภาพของกระดูก จึงสะท้อนออกมาได้ทางผิวหนัง
ขอบคุณภาพจาก rakpew.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น