วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

10 เรื่องแปลกชวนตะลึงของ “วันวาเลนไทน์”

10 เรื่องแปลกชวนตะลึงของ “วันวาเลนไทน์”

พอถึงเดือนกุมภาพันธ์เราเชื่อว่าหลายคนคงตั้งตารอวันที่ 14 ของเดือน เพราะมันคือ "วันวาเลนไทน์" หรือวันแห่งความรักนั่นเอง ดังนั้นใครที่กำลังมีรักก็ต้องเตรียมของ เตรียมเซอร์ไพรซ์ไว้ให้คนรู้ใจ ส่วนคนโสดก็รอไปเถอะว่าจะมีใครมาบอกรักรึเปล่า...วันนี้ทางทีมงาน Toptenthailand เลยได้เอา 10 เรื่องแปลกของวันวาเลนไทน์นี้มาฝากกัน
10. วันแห่งการ์ด
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ว่าเทศกาลนี้ทำเอาร้านขายการ์ดขายดีกันถ้วนหน้า เพราะมีการ์ดมากกว่า 140 ล้านใบ ส่งหากันในแต่ละปี!! จึงทำให้วันแห่งความรักนี้เป็นเทศกาลที่มีคนส่งการ์ดหากันมากเป็นอันดับ 2 ซึ่งคนอเมริกันมากกว่าครึ่งจะฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยการซื้อการ์ดในคนรักมากกว่าซื้อของอีกนะ..ก็แหม มันถูกกว่านี่เนาะ

ขอบคุณภาพจาก http://www.serenataflowers.com/pollennation/
9. จดหมายถึงจูเลียต..
ทุกคนคงจะรู้จักโรมิโอกับจูเลียตกันอยู่แล้ว แต่ใครจะไปเชื่อว่าวันวาเลนไทน์เนี่ยจะมีคนเขียนจดหมายไปหาจูเลียตทุกปี ปีละหลายพันฉบับ!! ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรึกษาเรื่องความรัก และขอพรให้สมหวังในความรัก ทั้งๆที่ตัวจูเลียตเองเนี่ยกลับยังดูแลชีวิตรักของตัวเองไม่รอดเล้ย!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.dogonews.com/2012/2/14/
8. วันตัดหัวของนักบุญวาเลนไทน์
ถ้าคุณคิดไว้ว่ามันต้องเป็นเรื่องหวานๆ โรแมนติกๆ แล้วล่ะก็ผิดถนัดค่ะ เพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกตัดหัวนั่นเอง!! ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะเค้าแอบดำเนินงานแต่งงานลับๆ ให้กับคู่รักคู่นึงในกรุงโรง ซึ่งถือเป็นการผิดกฎ เนื่องจากตอนนั้นกษัตริย์ได้ประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทุกงาน เลยทำให้เค้าต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อความรัก (ของคนอื่น) นั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก http://www.history.com/news/6-surprising-facts-about-st-valentine
7. ของขวัญวาเลนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก?
เคยสงสัยมั้ยว่าใครกันที่ได้ของขวัญวาเลนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันน๊า? ซึ่งคำตอบก็คือ พระนางมุมตัชนั่นเอง โดยของชิ้นนั้นก็คือ “ทัชมาฮาล” ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่แทนความรักอันเป็นนิรันดร์ของพระราชาชาห์จาฮานและพระมเหสีของพระองค์ โดยเรื่องราวความรักของทั้งคู่ก็ยังคงน่าประทับใจจนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณภาพจาก http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/
6. วันวาเลนไทน์โดนแบน?!
พูดไปก็จะหาว่าเราโกหกว่ามีด้วยหรอประเทศที่แบนวันว่าเลนไทน์ แต่จริงๆแล้ว มีนะคะ ประเทศที่เค้ามองว่าวันแห่งความรักนี้มันกระตุ้นให้ผู้หญิง ผู้ชายเกิดความลุ่มหลงราคะ?! เลยทำให้ในปี 2002 และ 2008 ประเทศซาอุดิอาระเบีย แบนวันวาเลนไทน์จ้า

ขอบคุณภาพจาก http://nayzak.deviantart.com/art/
5. แอนตี้วาเลนไทน์!!
นอกจากจะมีประเทศที่แบนวันวันนี้แล้ว คนทั่วโลกกว่า 20% เองก็ยังแอนตี้วันวาเลนไทน์ โดยการไม่ยอมฉลอง ไม่ใส่เสื้อผ้าสีแดง สีชมพู (บางคนก็ใส่สีดำด้วยซ้ำ) ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมาจากการถูกปฏิเสธความรัก การถูกหักหลัง หรือการไม่สมหวังในความรักนั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก http://wishquotes.com/category/valentines-day/
4. ความเชื่อสุดแปลก
หลายประเทศในแถบยุโรปเชื่อกันว่า ในวันวาเลนไทน์ ชื่อผู้ชายที่น้องๆ ผู้หญิง ได้ยินเป็นครั้งแรกของวัน ไม่ว่าจะอ่านจากหนังสือพิมพ์ หรือได้ยินจากวิทยุ โทรทัศน์ จะเป็นชื่อของผู้ชายที่น้องจะแต่งงานด้วยในอนาคต!! ซึ่งร้อยทั้งร้อยมันเป็นแค่ความเชื่อนะจ๊ะ ถ้าเรื่องจริงนี่ ทุกคนคงตบตีแย่งผู้ชายหล่อๆกันตายเลย

ขอบคุณภาพจาก http://www.bbcamerica.com/
3. ประเทศที่มีวันแห่งความรักเยอะที่สุดในโลก?
รู้กันมั้ยว่า..ประเทศเกาหลีใต้มีวันแห่งความรักเกือบจะทุกเดือน! แต่วันแห่งความรักที่สำคัญที่สุดอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน โดยเดือนกุมภาพันธ์ ผู้หญิงจะให้ขนมหวานกับผู้ชาย ส่วนในเดือนมีนาคม ผู้ชายจะให้ของตอบแทน แต่ของขวัญนั้นจะไม่ใช่ขนมหรือช็อกโกแลต และในเดือนเมษายน จะมีวัน “Black Day” หรือ “วันสีดำ” สำหรับคนที่โสดทั้งหลาย

ขอบคุณภาพจาก http://www.japancrush.com/
2. วันกระเป๋าฉีก!!
เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนคงหวังให้แฟนตัวเองซื้อของดีๆ เลี้ยงอาหารหรูๆ ให้ในวันแห่งความรักนี้ เลยทำให้โดยเฉลี่ยแล้วคุณผู้ชายจะเสียเงินให้กับวันวาเลนไทน์นี้กว่าคนละ 5,000 บาทเลยทีเดียว!! เลยไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเดือนกุมภาแฟนของคุณจะผอมผิดปกติ ก็เพราะไม่มีเงินจะกินข้าวแล้วไงล่ะ!!

ขอบคุณภาพจาก http://pro.ductsite.com/offers-on-valentine-gift.htm
1. สาเหตุของการฆ่าตัวตาย!!
มีผลการวิจัยออกมาว่ามีคนถึง 75% ที่พยายามจะฆ่าตัวตายในวันแห่งความรักนี้ เหตุเพราะว่าพวกเค้าไม่สมหวัง โดยปฏิเสธ และยังทำใจไม่ได้ที่คนที่ตัวเองรักไปมีคนอื่น ฉะนั้นถ้าใครคิดจะบอกเลิกกันล่ะก็...อย่าบอกวันนี้เลย เพราะนอกจากจะทำให้อีกฝ่ายเสียน้ำตาแล้ว ยังอาจจะเสียชีวิตได้เลยนะ!!

ขอบคุณภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Jumper_(suicide)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น