วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10 อาหารลดความเครียด


แหล่งที่มา : www.thaihealth.or.th

10. ลูกยอ

พืชชนิดนี้ใช้ได้ทั้งผลอ่อน ผลสุก และใบ ล้วนมีสรรพคุณเชิงสมุนไพรเกี่ยวกับการบำรุงสมองและการไหลเวียนของเส้นเลือดในสมอง ส่งผลให้มีสมาธิดีและมีความจำที่ดีขึ้น วิธีรับประทานคือนำลูกยอไปฝานเป็นแว่นๆ ตากแดดให้แห้งสนิท ใส่ลงในแก้วน้ำ เทน้ำร้อนตามแล้วดื่มได้ทันทีแบบจิบทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง ได้ผลดีกว่าดื่มรวดเดียว

9. เสาวรส

มีทั้งแบบเปลือกสีม่วงและสีเหลือง ชื่อสากลรู้จักกันในนาม Passion Fruit ผลไม้ชนิดนี้รสเปรี้ยว แต่เป็นรสเปรี้ยวที่มีเจือไว้ด้วยสาร ธีโอโบรมีน (Theobromine) ซึ่งเป็นอนุพันธ์หนึ่งในกลุ่มกาเฟอีน มีผลในการช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะและร่างกายส่วนต่างๆ ได้ทั่วถึง จึงรู้สึกผ่อนคลาย กระปรี้กระเปร่า

8. ขี้เหล็ก

คนไทยโบราณประจักษ์สรรพคุณต้นขี้เหล็กมานาน นำใบและดอกมาแกงรับประทาน เป็นยาระบายได้ดี ความจริงก็คือใบขี้เหล็กมีสาร บาราคอล (Baracol) ที่มีคุณสมบัติช่วยให้นอนหลับง่ายและยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหาหลับยากและปัญหาระบบขับถ่าย ทั้งระบายท้องทั้งระงับประสาท จึงเหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารแก้เครียดขนานหนึ่ง

7. เมล็ดธัญพืช

เมื่อความเครียดมาเยือน ร่างกายนำสารอาหารหลายชนิดที่สะสมไว้ ไปใช้ในการสร้างฮอร์โมน เพื่อช่วยในการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ และขับสารอาหารบางชนิดออกทางปัสสาวะมากขึ้นด้วย ร่างกายจึงมีความต้องการสารอาหารบางชนิดเพิ่มขึ้น หากความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะอ่อนแอ ทำให้เจ็บป่วยง่าย สารอาหารที่ร่างกายต้องการเพิ่มขึ้นยามนี้คือ 'วิตามินบี' ชนิดต่างๆ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงต่อการส่งสัญญาณของประสาททุกชนิด แหล่งวิตามินบีสำคัญก็คือ ข้าวกล้อง จมูกข้าวสาลี ถั่วเหลือง ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดธัญพืชต่างๆ นั่นเอง

6. ไข่ไก่

จัดอยู่ในแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนสูง มีกรดอะมิโนครบที่ร่างกายต้องการ และยังมีเกลือแร่ วิตามินอื่นๆ ที่สำคัญมากมาย ไข่ไก่ 100 กรัม ไม่ว่าจะไข่ดิบ ไข่ต้ม ไข่เจียว ก็ให้โปรตีนประมาณ 6 กรัม (แต่ให้พลังงานมากน้อยต่างกัน) ถ้าเป็นไข่เป็ด จะให้โปรตีน 15 กรัม

5. เนื้อสัตว์

ร่างกายต้องการพลังงานและโปรตีนในการดำเนินชีวิตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เนื้อสัตว์ถือเป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงานที่สำคัญแหล่งหนึ่ง โดยเฉพาะสารอาหารประเภทโปรตีน ซึ่งร่างกายจะย่อยเพื่อให้ได้กรดอะมิโนต่อไป ที่สำคัญควรเลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หรือติดมันแต่น้อย

4. นมสด

หลายคนนิยมหรือได้รับคำแนะนำให้ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอน จะทำให้นอนหลับง่าย (นางเอกในนวนิยายหลายเรื่องเชียวล่ะ) ข้อมูลเชิงวิชาการให้เหตุผลว่า เนื่องจากในนมสดมีสารอาหารประเภทแคลเซียม เมื่อแคลเซียมรวมตัวกับกรดแลกติกที่บริเวณปลายประสาท จะทำให้กรดแลกติกไม่สามารถก่อความระคายเคืองต่อระบบประสาทได้ จึงทำให้ไม่เกิดความเครียด หรือเครียดน้อยลง ที่สำคัญนมสดยังเป็นแหล่งของกรดอะมิโนที่ชื่อ 'ทริปโตฟาน'อีกเช่นกัน

3. กล้วยหอม

ช่วยคลายเครียดได้ดี เพราะกล้วยหอมเป็นแหล่ง 'ทริปโตฟาน' ชั้นยอด และยังมีน้ำตาลครบ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรักโทส และกลูโคส ซึ่งร่างกายพร้อมนำไปใช้งานได้ทันที เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกายทำงานได้ดี ลดสารพิษที่คั่งค้างในร่างกาย

2. น้ำมะตูม

นอกจากเป็นไม้มงคล คนไทยรุ่นปู่ย่าตายายเชื่อว่า สรรพคุณเชิงสมุนไพร มะตูมเป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยความที่เป็นพืชในตระกูลที่ให้น้ำมันหอมระเหย กลิ่นผลมะตูมสุกจึงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายนอกเหนือจากสรรพคุณแก้กระหายน้ำ ขับลมในลำไส้ ลดความดันโลหิตสูง แนะนำให้ระวังเมื่อนำผลมะตูมมาทำเป็นเครื่องดื่มและรับประทานเป็นของหวานแบบเชื่อมน้ำตาล เนื่องจากโดยธรรมชาติเนื้อมะตูมมีความเผ็ดร้อนและปร่า เพื่อขจัดรสชาติเหล่านี้ คนโบราณนิยมใช้น้ำตาลทรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นทำให้ร่างกายได้รับภาวะโภชนาการเกินเช่นกัน ดังนั้น ถ้าจะทำเป็นเครื่องดื่มหรือเชื่อมมะตูมเพื่อเป็นของหวาน จึงควรใช้น้ำตาลทรายแต่พอดี หรือใช้สารเพิ่มความหวานจากธรรมชาติชนิดอื่น เช่น น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง โดยสูตรน้ำมะตูมที่ อ.จักราวุธ ปรุงสำหรับดื่มเองนั้นใช้มะตูมแห้ง 100 กรัม คั่วแล้วจึงนำไปต้มกับน้ำสะอาด 2 ลิตร ตักใส่แก้วขนาด 300 มิลลิลิตร เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

1. ช็อกโกแลต

ความฉงนสนเท่ห์เกี่ยวกับช็อกโกแลตมีมากมาย บ้างก็ว่าดีต่อสุขภาพ บ้างก็ว่าอ้วนเพราะกินช็อกโกแลต จักราวุธ ภู่เสม อาจารย์ประจำภาควิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร แนะนำว่า ควรเลือกรับประทานประเภท ดาร์ค ช็อกโกแลต (Dark Chocolate) หมายถึงช็อกโกแลตที่ไม่มีนมและครีมเป็นส่วนผสมที่มากเกินไป ครีมเป็นส่วนผสมที่ให้ความหวาน ซึ่งทำให้คนบริโภคช็อกโกแลตประเภทนี้ง่ายขึ้น เมื่อบริโภคง่ายจนเกินพอดี ก็ทำให้เกิดภาวะโภชนาการเกิน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาความอ้วน-น้ำหนักเกิน ดังนั้นถ้าจะกินช็อกโกแลต ให้กินช็อกโกแลตประเภท 'ดาร์ค ช็อกโกแลต' และช็อกโกแลตที่ให้ความหวานแต่น้อย ความจริงแล้ว ช็อกโกแลตเป็นอาหารแห่งความสุข เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสารที่เรียกว่าPhenylethylamine ปกติสารเคมีตัวนี้สมองจะหลั่งออกมาขณะที่คนคนนั้นเกิดความรัก เว็บไซต์ 'ทาเลนท์ดีเวลอปดอทคอม' เผยแพร่ผลการศึกษา Dark Chocolate: The New Antianxiety Drug ของ ดร.เมอร์โคลา ที่ระบุการใช้ช็อกโกแลตบำบัดผู้ป่วยด้านอารมณ์ของคลินิกบำบัดแห่งหนึ่ง โดยพบว่าการกินดาร์ค ช็อกโกแลต จำนวนออนซ์ครึ่งทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดลงได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น