การระเบิดในบอสตันสร้างความตื่นตระหนกให้ชาวโลกเป็นอย่างมาก การกระทำที่อุกอาจและส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงถือเป็น 1 ในเหตุการณ์แห่งปีเลยก็ว่าได้ หลายๆเรื่องหลายๆคนทราบดีแต่มีอีกหลายเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่ทราบ ทีมงาน toptenthailand ได้รวบรวมมาให้ท่านแล้วใน "10 เรื่องควรรู้เหตุระเบิดในบอสตันมาราธอน พ.ศ. 2556"
เครดิต : เรียบเรียงโดยทีมงาน toptenthailand
แหล่งที่มา : รวบรวมข้อมูลโดย ทีมงาน toptenthailand
10. กระทบลอนดอนมาราธอน
หลังเกิดเหตุส่งผลกระทบต่อความมั่นใจความปลอดภัยในการแข่งขัน แต่หลังจากวันที่ 21 เมษา ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี "ลอนดอนมาราธอน" เหล่านักวิ่ง ผู้ร่วมชมการแข่งขัน ต่างร่วมแสดงความไว้อาลัย พร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดกลางบอสตันอีกด้วย
9. ประเทศไทย
จากการตรวจสอบคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บที่ตรวจสอบโดยสถานกงสุลใหญ่ในนครนิวยอร์ก ผลออกมาว่าไม่พบคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุระเบิดครั้งนี้ ในขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยฝ่ายความมั่นคงได้ประชุมเพื่อวางมาตรการในการดูแลคนไทยและนักท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยที่จะเพิ่มมาตรการดูแลประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากขึ้นด้วย
8. บอสตันมาราธอน
บอสตันมาราธอน เป็นการวิ่งมาราธอนที่จัดขึ้นในเมืองบอสตัน ทางฝั่งตะวันออกของรัฐแมสซาชูเสตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา การแข่งขันวิ่งระยะยาวที่สุด 42 กิโลเมตรนี้ เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1897 นับเป็นครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จในการจัดแข่งขันมาราธอนในยุคใหม่ บอสตันมาราธอนจัดเป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นมาราธอนที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก และเป็นการวิ่งมาราธอน 1 ใน 6 รายการใหญ่ของโลกในแต่ละปี จะมีผู้ชมมากกว่า 500,000 คน เข้าชมการแข่งขันนี้ที่มาจากทั่วประเทศและทั่วโลก ในจุดเริ่มต้นมีผู้เข้าร่วมแข่งขันในปี ค.ศ. 1897 เพียง 18 คน แต่ในแต่ละปีปัจจุบัน จะมีผู้เข้าร่วมและลงทะเบียนแข่งขันประมาณ 20,000 คน ในปี ค.ศ. 1996 มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน 38,708 คน และได้เข้าเส้นชัย 35,868 คน
7. บอสตันมาราธอน
“บอสตัน มาราธอน” ปีหน้าจะมีการแข่งขันต่อไป โทมัส กริลค์ กรรมการบริหารสมาคมกีฬาบอสตัน เผยปีหน้าจะดำเนินการจัดแข่งขันต่อไป เพราะถือเป็นประเพณีและประวัติศาสตร์อันยาวนานของชุมชน โดยมั่นใจว่าเหตุการณ์เลวร้ายจะมาหยุดหนึ่งในรายการวิ่งอันเก่าแก่ที่สุดของโลกไม่ได้ ซึ่ง ทีมงาน toptenthailand หวังว่าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น
6. การทำงาน
การแข่งขันมาราธอนถูกยุติในทันที ตำรวจทำตามแผนภาวะฉุกเฉินโดยให้นักวิ่งที่เหลือเบนเส้นทางออกจากเส้นชัยไปยังบอสตันคอมมอนและจัตุรัสเคนมอร์ โรงแรมลีน็อกซ์ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียงถูกสั่งอพยพไปด้วย ตำรวจทำการปิดตายจากจุดเกิดเหตุออกไปในรัศมี 15 ช่วงตึก ซึ่งหากใครได้ชมคลิบที่อัดได้จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่มีการเตรียมตัวมาอย่างดีสามารถเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในเวลาอันสั้น
5. ผลกระทบ
เหตุระเบิดครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการจัดการแข่งขันกีฬาหลายการแข่งขัน โดยการแข่งขันบาสเก็ตบอลระหว่างทีมบอสตันและเซลติกส์และเพเซอร์ส ที่จะจัดขึ้นที่บอสตันในคืนวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 เอ็นบีเอต้องยกเลิกการแข่งขัน นอกจากนี้การแข่งขันฮ็อกกี้ NHL ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน แม้แต่การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล และเป็นเหตุให้นานาประเทศเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในการแข่งขันต่างๆเพิ่มขี้นอย่างมากอีกด้วย
4. การระเบิด
ระเบิดเกิดขึ้นสองครั้งโดยห่างกันประมาณ 200 หลา (180 เมตร) ภาพวีดีโอจากบริเวณเส้นชัยแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลา 12 วินาทีระหว่างการระเบิดทั้งสอง ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นใกล้กับร้าน Marathon Sports ที่ตั้งอยู่ที่เลขที่ 671–673 ถนนบอยล์สตัน ส่วนลูกที่สองระเบิดที่เลขที่ 755 ถนนเดียวกัน ห่างจากลูกแรกไปทางทิศตะวันตกไปประมาณ 1 ช่วงตึก นาฬิกาการแข่งขันขณะระเบิดลูกแรกระเบิดบอกเวลา 04:09:43 (4 ชั่วโมง 9 นาที 43 วินาที) ทั้งนี้ก่อนหน้าการระเบิด เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาวัตถุระเบิดถึงสองครั้ง โดยครั้งหลังทำการค้นหาไปก่อนเกิดการระเบิดเพียงหนึ่งชั่วโมง
3. ผู้ก่อเหตุ
ผู้ก่อเหตุ 2 คน ได้แก่ 2พี่น้อง นายทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ และ นายโชการ์ ซาร์นาเยฟ ซึ่งเป็นชาวเชเชนบริเวณเทือกเขาคอเคซัสที่อพยพเข้ามาในสหรัฐอเมริการาวปี 2000 หรือ 2001 ซึ่งคนพี่นายทเมอร์ลัน ก่อเหตุดวลปืนหลบหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผลที่ตามมาคือทาเมอร์ลันถูกยิงวิสามัญเสียชีวิตไปก่อน เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ขณะที่โชการ์หลบหนีได้เพียง 1 วัน ก่อนจนมุมหลังดวลปืนกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งสามารถยิงถูกจุดสำคัญ คือบริเวณลำคอของเด็กหนุ่มอาการคงตัว
2. จำนวนผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต
มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 264 คน ผู้เสียชีวิต 3 รายประกอบด้วย 1.เด็กชายมาร์ติน ริชาร์ด อายุเพียง 8 ขวบ ขณะที่เขากับแม่และน้องสาวกำลังรอผู้เป็นพ่อวิ่งเข้าเส้นชัย ส่วนน้องสาวขาขาด และ แม่สาหัส 2.นางสาวคริสเติล แคมป์เบล อายุ 29 ปี 3.นางสาวลู่ หลิงจือ นักศึกษาทุนจากจีน อายุ 23 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น